วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โชว์วันเดือนปีปัจจุบัน

Code สั้น ๆ ที่ควรบอกต่อค่ะ เหมาะสำหรับเอาไว้แสดงวันเดือนปีและเวลาในหน้าเวบของเรา และได้ลองใช้แล้วเวิร์กมาก ๆ ค่ะ

<?
$today_dat=date("d-M-Y");
$today_time=date("h:i:s: a");
echo "$today_date $today_time";
?>

ผลจะเป็นอย่างภาพข้างล่างค่ะ


ต้องขอขอบคุณ Web Master http://www.php-mysql-program.com ค่ะที่แบ่งปันสิ่งที่ประโยชน์ให้
ที่มา:  http://www.php-mysql-program.com

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Google+ - การเพิ่มผู้จัดการเพจ

ขออีกนิด อันนี้สำคัญค่ะ เพราะเป็นคุณสมบัติที่ต่างจาก Facebook Fan Page ค่ะ คือ การตั้งเพื่อให้เป็นผู้จัดการเพจ หรือ Admin คือ ใน Google+ หากเราตั้งค่าให้เพื่อนเราหรือทีมงานของเราเป้นผู้จัดการเพจ เขาก็จะมีสิทธิ์แค่เป็นผู้จัดการเพจเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของเพจ คือ เพื่อนหรือทีมงานเราจะยกเลิกความเป็นเจ้าของเพจของเราไม่ได้ค่ะ

อ้างอิงจาก http://support.google.com/plus/bin/answer.py?hl=th&p=pages_multi_admin&answer=2380625

ส่วนวิธีการเพิ่มผู้จัดการเพจก็ไม่ยากค่ะ ... ลองดูนะค่ะ
1. เข้าไปยังหน้าเพจของเราแล้ว คลิก "ตั้งค่า" จะปรากฏหน้าต่างข้างล่างนี้ แล้วคลิกเลือก "ผู้จัดการ"

2. จะปรากฏหน้าต่างข้างล่างนี้ จะเห็นได้ชัดว่า เราเป็นเจ้าของเพจนี้ และข้างล่างจะมีช่องให้เพิ่มผู้จัดจากนั้นให้ใส่เมล์ของเพื่อนหรือทีมงานของเราให้เป็นผู้จัดการ แล้วคลิก "เชิญ"

 3. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง เชิญผู้จัดการเพื่อยืนยันการเชิญอีกครั้ง ให้คลิก "เชิญ" เพื่อยันยันค่ะ
 เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือเราก็รอให้เพื่อนหรือทีมงานของเรายืนยันทางเมล์เท่านั้น ก็เป็นอันเรียบร้อย เท่านี้เราจะมีผู้ช่วยที่จะเข้ามาทำให้เพจเรามีสีสันมากขึ้นค่ะ

Google+ - การเข้าไปยังหน้าเพจที่สร้างไว้

^.^ กำลังสนุกกับการสร้างเพจใน Google + อยู่ วันนี้จึงขอนำเสนอการเข้าไปยังหน้าเพจที่เราสร้างไว้ค่ะ ซึ่งหลายคนอาจยังงงกับวิธีการเข้าไปยังหน้าเพจที่สร้างไว้ว่า เราจะเข้าไปได้อย่างไร.. จริง ๆ แล้วง่ายมากค่ะ ลองดูนะค่ะ
1. ก่อนอื่นเลยคือ ต้องเข้าไปยังหน้า Google+ จะเห็นแท็บเมนูสีเทาทางซ้ายมือ เลื่อนเมาส์ลงยังปุ่ม "เพิ่มเติม" แล้วคลิก จะปรากฏเมนูสีเทา ถัดออกมา ให้คลิก "เพจ"

2. จะปรากฏหน้าต่าง "จัดการหน้าเว็บของคุณ" ในหน้านี้จะปรากฏทุกเพจที่คุณสร้างไว้ ต้องการเข้าไปยังเพจไหนให้คลิกข้อความ "เปลี่ยนไปที่หน้านี้" ของเพจนั้น ๆ ค่ะ

เพียงเท่านี้ เราก็ไปยังหน้าเพจที่ต้องการได้แล้ว... ขอให้สนุกกับการใช้เพจของ Google+ นะค่ะ ^.^

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Google+ - วิธีสร้างเพจในกูเกิล+

ตอนนี้ Google+ มีบริการสร้างเพจสำหรับประชาสัมพันธ์บริษัท ร้านค้า สถานที่ ฯลฯ เหมือน Facebook แล้ว และวิธีการสร้างเพจก็ง่ายมากค่ะ ลองดูนะค่ะ ^.^
1. หากเราเข้าหน้า Google+ ของเราแล้วจะเห็นแท็บเมนูอยู่ข้างซ้ายมือเป็นสีเทาอ่อน ให้เลื่อนเมาส์ลงมาถึงปุ่มคำว่า "เพิ่มเติม" ให้แล้วคลิก จะเห็นเมนูเพิ่มอีก 2 ปุ่มที่เป็นสีเทาอ่อน ให้เลื่อนเมาส์ไปที่คำว่า "เพจ" และคลิกอีก 1 ครั้ง

2. ไปยังหน้าที่รวบรวมเพจทั้งหมดของเรา และทางขวาบนจะเห็นปุ่มสีแดง คำว่า "สร้างหน้าเว็บใหม่" ให้คลิกอีก 1 ครั้ง
 3. จะปรากฏหน้า "สร้างเพจสำหรับ Google+" จะมีหมวดหมู่ดังนี้ให้เลือก คือ ธุรกิจท้องถิ่นหรือสถานที่, สินค้าหรือแบรนด์, บริษัท สถาบัน หรือองค์กร, ศิลปะ บันเทิง หรือกีฬา และอื่นๆ โดยปุ่มเหล่านี้หากเราเลื่อนเมาส์ไปวางที่ปุ่มใด ๆ จะปรากฏข้อความและขอบเขตเกี่ยวกับหมวดหมู่นั้น ๆ เมื่อเลือกได้แล้ว ให้คลิก 1 ครั้ง

 4. จะปรากฏหน้าต่าง "เพิ่มข้อมูลของคุณ" และแต่ละหมวดหมู่ก็จะให้เราเพิ่มข้อมูลที่แตกต่างกันไป (ในที่นี้เลือกหมวดหมู่ "ธุรกิจท้องถิ่นหรือสถานที่"  โดยให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์ แล้วคลิกปุ่ม "ค้นหา"

5. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง "เลือกธุรกิจหรือสถานที่ของคุณ" จะบอกผลการค้นหา ว่าไม่พบผลลัพธ์ที่ตรงกับเลขหมายโทรศัพท์ที่ระบุไว้ หลังจากนั้นให้ข้อความ "เพิ่มธุรกิจของคุณใน Google"

6. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง "ขั้นสุดท้าย ยืนยันข้อมูลของคุณ" ให้กรอกทุกช่องที่ว่างอยู่ ตามที่มีข้อความสีเทาปรากฏอยู่แต่ละช่อง

7. สุดท้ายอย่าลืมคลิกเมาส์ที่ช่องยอมรับ... ด้วยนะค่ะ แล้วคลิกปุ่ม "สร้าง"

8. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง คำว่า "รอสักนิด กำลังสร้างเพจอยู่นะ"

9. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง "ปรับแต่งโปรไฟล์สาธารณะของคุณ" => "ข้อมูลโปรไฟล์พื้นฐาน" โดยให้เพิ่มรูปภาพ ด้วยการคลิกปุ่ม "ตั้งค่าโปรไฟล์" พอใส่รูปเสร็จแล้ว ให้คลิกปุ่ม "ดำเนินการต่อ" หรือหากยังหาภาพที่เจ๋งๆ ไม่เจอ ก็คลิกปุ่ม "ดำเนินการต่อ" ได้เช่นกัน

10. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง "ปรับแต่งโปรไฟล์สาธารณะของคุณ" => "กระจายข่าว" ให้ใส่ข้อความลงในช่องว่างที่มีคำว่า "แนะนำเว็บนี้แก่แวดวงของคุณ" สีเทาอ่อน แล้วคลิกปุ่ม "แบ่งปันใน Google" (แต่หากต้องการข้ามไปก่อนก็ได้) แล้วคลิกปุ่ม "เสร็จสิ้น"

11. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าเพจของเรา หลังจากนั้นก็ให้เพิ่มข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็น

เป็นงัยค่ะ ง่ายมากมั้ยค่ะ เอ้อ! เพจเนี่ย เราจะสร้างสักกี่เพจก็ได้นะค่ะ ... ^_^

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

PHP - Counter (1)

Code นี้ทดสอบแล้วใช้ได้ดีทีเดียว สั้น ๆ ง่าย ๆ ... ลองนำไปใช้ดูนะค่ะ

< ?PHP
 
$filename = "PHPCounter.txt";
 
$fp = fopen( $filename,"r"); 
$Old = fread($fp, 100); 
fclose( $fp ); 
 
$Old = split ("=", $Old, 5);
 
$NewCount = $Old[1] + '1';
 
$New = "Count=$NewCount";
 
$fp = fopen( $filename,"w+");
if (flock($fp, 2)) { 
fwrite($fp, $New, 100); }
fclose( $fp ); 
 
print "Count=$NewCount";
 
?>

ที่มา: http://www.sadung.com/?p=4190&cpage=1#comment-30768

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Facebook - ออกจากกลุ่มที่เพื่อนเชิญให้เข้ากลุ่ม

กลุ่มที่เพื่อน ๆ สร้างและเชิญเราเข้าไปร่วมนั้น บางทีเราก็ไม่อยากเข้าร่วมด้วยเหตุผลมากมาย หรือบางครั้งกลุ่มที่เพื่อนสร้างนั้นเยอะเกิ๊น และบางกลุ่มก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว จะด้วยอะไรก็ตาม หากเราต้องการออกจากกลุ่มก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ .. ลองทำดูนะค่ะ
1. ให้คลิกเข้าไปในกลุ่มที่เราคิดว่าอยากออกจากกลุ่มแระ หลังจากนั้นให้เลื่อนเมาส์ไปทางขวาบนแล้วคลิกปุ่มที่มีรูปเฟือง จะปรากฏด็อปดาวน์ แล้วให้เลื่อนเมาส์ไปที่คำว่า "Leave Group" แล้วคลิก

2. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง "Leave ชื่อกลุ่มที่จะออก" ให้กดปุ่ม "Leave Group" อีกครั้งเพื่อยืนยันค่ะ

ง่ายมากเลยใช่มั้ยค่ะ ^.^

Facebook - ยกเลิกการเป็นเพื่อน

หากหลายคนคิดว่า การบล็อกเพื่อนนั้นรู้สึกแรงส์เกินไป แค่ยกเลิกการเป็นเพื่อนก็พอแล้วมั้ง?... การยกเลิกกาเป็นเพื่อนก็ง่าย ๆ อีกเช่นกันค่ะ ลองทำดูนะค่ะ
1. เข้าไปยังหน้าเฟสบุ๊คของเพื่อนที่เราต้องการยกเลิก หลังจากนั้นเลื่อนเมาส์ไปยังขวามือ มองหาปุ่ม "Friends" แล้วคลิกจะปรากฏด็อปดาวน์เมนู ตามภาพข้างล่าง แล้วเลื่อนเมาส์ลงไปยังคำว่า "Unfirend" แล้วคลิก
 หรือเลื่อนเมาส์ไปยังรูปเฟืองที่มีลูกศรลง แล้วคลิกก็จะปรากฏด็อปดาวน์เมนู ด้งภาพข้างล่าง แล้วเลื่อนเมาส์ลงไปคำว่า "Unfirend" แล้วคลิก ก็ได้
2. หลังจากคลิกที่คำว่า "Unfriend" แล้วจะปรากฏหน้าต่าง ๆ "Remove ชื่อเพื่อนที่ต้องการยกเลิก as a friend? ให้คลิกปุ่ม "Remove from Friends" เป็นอันเรียบร้อยค่ะ
ขอให้สนุกกับการเล่นเฟสบุ๊คนะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Facebook - บล็อกเพื่อนที่ไม่พึงประสงค์

ระหว่างรออัพเดท Windows เราขอแนะนำวิธีบล็อกเพื่อนที่ไม่พึงประสงค์ใน facebook ของเรากันค่ะ เป็นวิธีที่ดีที่สุดของการจัดการบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ออกจากสังคมออนไลน์ด้วย เพราะในการบล็อกแต่ละครั้ง facebook จะให้เราเลือกเหตุผลที่เราอยากบล็อกคนๆ นี้ด้วยค่ะ ลองดูนะค่ะ
1. อันดับแรกคือ ให้เราคลิกไปยังหน้าเพื่อนที่เราต้องการบล็อกก่อนค่ะ
2. หลังจากนั้นให้เลื่อนเมาส์ไปทางขวามือ คลิกปุ่มที่มีรูปเฟืองกับลูกศรลง จะปรากฏด็อปดาวน์เมนู ดังภาพข้างล่าง หลังจากให้เลื่อนเมาส์ลงไปยังคำว่า "Report/Block..."

3. เมื่อคลิกแล้วจะปรากฏหน้าต่าง Report and/or Block This Person หลังจากนั้นให้เราเลือกเหตุผลสักข้อนึงตามที่ปรากฏในหน้าต่างนี้ หลังจากนั้นให้กดปุ่ม Confirm 


หลังจากกดปุ่ม Confirm ไปแล้ว เฟสของเพื่อนคนนี้ก็จะไม่มาปรากฏที่หน้าเฟสของเราอีกต่อไปค่ะ
ขอให้สนุกกับการใช้เฟสบุ๊คนะค่ะ ^.^

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Twitter - วิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทวิตเตอร์

ห่างไปนาน... วันนี้จะขอแนะนำวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทวิตเตอร์ แต่ถ้าเราตัั้งค่าตรงนี้แล้ว เราจะไม่สามารถนำทวิตเตอร์ของเราไปใช้ในเชิง SEO ไม่ได้ คือ เราจะไม่สามารถใช้ปลั๊กอินของเวบไซต์ของเราส่วนนี้ได้นั่นเอง ฉะนั้นหากจะตั้งค่าตรงนี้ต้องคิดดี ๆ นะค่ะ... เราลองมาดูกันค่ะ
1. ให้คลิกที่ชื่อของคุณที่อยู่มุมบนขวา แล้วจะเข้ามายังหน้า ก็จะเจอ "Edit your profile" อยู่มุมบนขวามือ แล้วให้คลิก "Edit your profile"

2. จะปรากฏหน้า Profile แล้วให้คลิก "Account" ที่อยู่ทางซ้ายมือ

3. จะปรากฏหน้า Account แล้วเลื่อนลงไปข้างล่าง จะพบคำว่า "Tweet privacy" ให้คลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หน้าข้อความ "Protect my Tweets" แล้วจะปรากฏเครื่องหมายถูก "/" แล้วคลิก "Save changes"
แต่ถ้าหาก ต้องการใช้ปลั๊กของเวบไซต์กับ Twitter ของเราต้องคลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ตรงอีกครั้งเพื่อให้เครื่องถูกหายไป แล้ว Save changes อีกครั้งค่ะ

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

CSS - Text Formatting #2


การเปลี่ยนแปลงของขนาดตัวอักษร
เป็นเรื่องที่ต้องจัดการ และวางแผนให้ดีตั้งแต่ขั้นตอนแรกองการออกแบบเวบไซต์ ทั้งนี้การใช้ขนาดตัวอักษรที่เหมาะสมจะทำให้การจัดรูปแบบเนื้อหาดูน่าสนใจ
1) การใช้หน่วย Pixel
Pixel เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของภาพดิจิตอล โดย 1 Pixel มีค่าเท่ากับ 1 จุด การใช้หน่วย Pixel เป็นกำหนดขนาดตัวอักษรแบบตายตัว คือถ้ากำหนดตัวอักษร 20 Pixel เมื่อแสดงผลหน้าจอ ไม่ว่าหน้าจอจะละเอียดขนาดไหน ตัวอักษรก็จะมีขนาด 20 Pixel เท่านั้น
การปรับเปลี่ยนตัวอักษรทำได้โดยกำหนดค่าใน Property “font-size” มีรูปแบบดังนี้ => font-size: valuepx; โดย
font-size หมายถึง Property หรือคำสั่งที่ใช้กำหนดขนาดตัวอักษร
value      หมายถึง ค่าขนาดของตัวอักษร
px          หมายถึง หน่วยของขนาดตัวอักษร
ตย. span#pixel {
          font-size: 12px;     /* กำหนดขนาดตัวอักษรหน่วยเป็น pixel */
                           }
2) การใช้หน่วย Keyword. Percentage และ Ems
a. Keyword
ใน CSS จะมี Keyword อยู่ 7 ค่า คือ xx-small, x-small, small, medium, large, x-large และ xx-large
ตารางเปรียบเทียบขนาดตัวอักษรที่ใช้ Keyword กับหน่วยเป็น Pixel
Keyword
Pixel
xx-small
9px
x-small
10px
small
13px
medium
16px
large
18px
x-large
24px
xx-large
32px
   การกำหนดขนาดข้อความใน Property “font-size” โดยกำหนดหน่วยเป็น Keyword
   span#keyword {
                   font-size: large;                     /* กำหนดขนาดัวอักษรหน่วยเป็น Keyword */
   }
b. Percentage
  100% มีค่าเท่ากับ 16px โดยทั่วไปจะนำไปใช้ร่วมกับหน่วยอื่น ๆ เพื่อกำหนดเป็นค่าเริ่มต้น
  การกำหนดขนาดตัวอักษรใน Property “font-size” เป็น Percentage
  span#percent {
       font-size: 20%       /* กำหนดขนาดตัวอักษรหน่วยเป็น Percentage */ 
  }
  c. Ems
 เป็นหน่วยที่กำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของหน่วย Pixel  โดย 1em มีค่าเท่ากับ 100% หรือ 16 Pixel
 การกำหนดขนาดตัวอักษรใน Property “font-size” เป็น Ems
 span#em {
    font-size: 2 em;     /* กำหนดขนาดตัวอักษรหน่วยเป็น Ems */
 }
 ตย. การกำหนดขนาดตัวอักษรในรูปแบบต่าง ๆ
 สร้างไฟล์ CSS ชื่อ “FontSize.css” เพื่อกำหนดขนาดตัวอักษรในรูปแบบต่างๆ
 span#pixel {
      font-size: 12px; 
 }
 span#keyword {
      font-size: large; 
 }
 span#em {
      font-size: 2em; 
 }
          สร้างไฟล์ HTML ชื่อ “FontSize.html”  
          <body>
                <p><span id=”pixel”>ข้อความนี้ปรับขนาดข้อความโดยใช้หน่วย Pixel</span></p>
                <p><span id=”keyword”>ข้อความนี้ปรับขนาดข้อความโดยใช้หน่วย Keyword</span></p>
                <p><span id=”percent”>ข้อความนี้ปรับขนาดข้อความโดยใช้หน่วย Percentage</span></p>
                <p><span  id=”em”>ข้อความนี้ปรับขนาดข้อความโดยใช้หน่วย Em</span></p>
          </body>
          เพิ่มคำสั่งเพื่อเรียกใช้ CSS จากไฟล์ “FontSize.css” ในแท็ก <head> ของไฟล์ “FontSize.html” ดังนี้
          <link rel=”stylesheet” type=”text/css” href=”FontSize.css”></link>


วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

CSS - Text Formatting #1


การกำหนดรูปแบบการแสดงผลและรูปภาพบนเวบเพจที่เหมาะสมจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เยี่ยมชมได้เป็นอย่างดี
รูปแบบข้อความ
ข้อความ (Text) เป็นทรัพยากรที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพื่อใช้บอกรายละเอียดของเนื้อหาและรูปภาพที่นำเสนอ
1. การเลือกแบบอักษร
     การเลือกแบบอักษรแต่ละประเภทมาใช้ในเวบ ขึ้นอยู่กับเนื้อหา การจัดวางองค์ประกอบ การปรับแต่งอัตราส่วน และการจัดสมดุลในเพจ โดยทั่วไปแบ่งได้ 5 กลุ่มดังตาราง
กลุ่มแบบอักษร
ชื่อแบบอักษรในกลุ่ม
Serif
Time New Roman, Georgia, Baskerville, Hoefler Text
Sans-Serif
Arial, Helvetica, Verdana, Geneva, Tahoma, Trebuchet MS, Century Gothic
Monosospaced and fun
Courirer New, Lucida Console, Copperplate Light, Marker Felt
Cursive
Comic Sans, Zapf Chancery, Zapfino
Fantasy
Desdemona, Playbill, Herculanum
การกำหนดอักษรใน CSS ทำได้โดยกำหนดค่า Property "font-family" มีรูปแบบดังนี้ => font-family: value1, value2;
โดย value1 หมายถึง แบบอักษรที่ต้องการเลือกใช้และจะถูกเลือกเป็นลำดับแรก
        value2 หมายถึง แบบอักษรที่จะถูกเลือกใช้ในอันดับถัดไป หากบราวเซอร์ไม่รองรับอันดับก่อนหน้า
ตย. สร้างไฟล์ "TypeographyFont.css" เพื่อกำหนดแบบอักษร
        h1 {font-family: Arial;}
        h2 {font-family: monospace;}
        h3 {font-family: "Comic Sans MS", cursive;}
       สร้างไฟล์ "TypeographyFont.html"
       <body>
             <h1>เลือกชนิดตัวอักษรแบบ Arail</h1>
             <h2>เลือกชนิดตัวอักษรแบบ Monospace</h2>
             <h3>เลือกชนิดตัวอักษรแบบ "Comic Sans MS", cursive</h3>
       </body>
       เพิ่มคำสั่งเพื่อเรียกใช้ CSS จากไฟล์ "TypeographyFont.css" ในแท็ก <head> ของไฟล์ "TypeographyFont.html" ดังนี้
<link rel="stylesheet" type="text/css" href="TypeographyFont.css"></link>


2. การเพิ่มสีสันให้กับข้อความ
      เพื่อดึงดูดผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเวบไซต์ โดยมีสีมาตรฐานที่สามารถแสดงผลค่าสีได้ถูกต้องเหมือนกันทุกบราวเซอร์จะมี 16 สี ด้วยกัน
    1) การกำหนดสีข้อความแบบเลขฐาน 16
         เลขฐาน 16 ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัว และตัวอักษรอีก 6 คือ  0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, A, B, C, D, E, F มีการใช้งานอยู่ 2 แบบ คือ เลข 3 หลักกับเลข 6 หลัก

         ตารางสีแบบเลขฐาน 16 หลัก
ชื่อของสี
เลขฐาน 16         

ชื่อของสี
เลขฐาน 16
Black                  
#000000             

Green
#008000
Silver                 
#c0c0c0              

Lime
#00ff00
Gray
#808080

Olive
#808000
White
#ffffff

Yellow
#ffff00
Maroon
#800000

Navy
#000080
Red
#ff0000

Blue
#0000ff
Purple
#800080

Teal
#008080
Fuchsia
#ff00ff

Aqua
#00ffff
    2) การกำหนดสีข้อความแบบใช้ฟังก์ชั่น RGB
         การกำหนดค่าสีในโหมด RGB มี 2 รูปแบบคือ รูปแบบเปอร์เซ็นต์ 0-100% ความเข้มของสีเรียงจากน้อยไปมาก เช่น (100%, 0%, 0%) คือ แดงเข้ม (0%, 100%, 0%) คือ เขียวเข้ม (0%, 0%, 100%) คือ น้ำเงินเข้ม เป็นต้น และแบบ Digitla 8 bit หรือเลข 0-255 เช่น (255, 255, 255) คือ ขาว (0, 0, 0) คือ ดำเป็นต้น

         ตารางสีแบบเปอร์เซ็นต์
ชื่อของสี
เปอร์เซ็นต์

ชื่อของสี
เปอร์เซ็นต์
Black
0%, 0%, 0%

Green
0%, 100%, 0%
Silver
90%, 91%, 98%

Lime
49%, 99%, 0%
Gray
75%, 75%, 75%

Olive
50%, 50%, 0%
White
100%, 100%, 100%

Yellow
100%, 100%, 0%
Maroon
50%, 0%, 0%

Navy
50%, 0%, 0%
Red
100%, 0%, 0%

Blue
0%, 0%, 100%
Purple
50%, 0%, 50%

Teal
0%, 50%, 50%
Fuchsia
100%, 0%, 100%

Aqua
0%, 100%, 100%

         ตารางสีแบบ Digital 8 bit
ชื่อของสี
Digital 8 bit

ชื่อของสี
Digital 8 bit
Black
0, 0, 0

Green
0, 255, 0
Silver
230, 232, 250

Lime
124. 252, 0
Gray
192, 192, 192

Olive
128, 128, 0
White
255, 255, 255

Yellow
255, 255, 0
Maroon
128, 0, 0

Navy
0, 0, 128
Red
255, 0, 0

Blue
0, 0, 255
Purple
128, 0, 128

Teal
0, 128, 128
Fuchsia
255, 0, 255

Aqua
0, 255, 255
    การกำหนดสีข้อความใน CSS ทำได้โดยกำหนดค่าใน Property "color" มีรูปแบบดังนี้ => color: value; โดย
    color หมายถึง Property หรือคำสั่งที่ใช้กำหนดสี
    value หมายถึง รูปแบบและค่าสีที่เลือกใช้
    ตย. สร้างไฟล์ "ColorText.css" เพื่อกำหนดสีข้อความ
           span#red {
                   color: #ff0000;     /* กำหนดสีแบบเลขฐาน 16 */
           }
           span#green {
                   color: rgb(0,255,0);   /* กำหนดสีแบบ Digital 8 bit */
           }
           span#blue {
                   color: rgb(0%, 0%, 100%);   /* กำหนดแบบเปอร์เซ็นต์ */
           }
           สร้างไฟล์ "ColorText.html"
           <body>
                <h2>ทดสอบข้อความ<span id = “red”>สีแดง</span></h2>
                <h2>ทดสอบข้อความ<span id = “green”>สีเขียว</span></h2>
                <h2>ทดสอบข้อความ<span id = “blue”>สีฟ้า</span></h2>
          </body>
       เพิ่มคำสั่งเพื่อเรียกใช้ CSS จากไฟล์ “ColorText.css” ในแท็ก <head> ของไฟล์ “ColorText.html” ดังนี้
       <link rel = “stylesheet” type = “text/css” href = “ColorText.css”></link>